วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2559

พุทธภาษิต ๙๑๙ บท (ชุดที่ ๓๓)


๕๙๖.
เราเรียกผู้ตัดอาลัยในกามว่าผู้สำรวม เขาไม่มีเครื่องเศร้าหมองรัดรึงตรึงตราไว้  ย่อมข้ามพ้นความเดือดพล่านแห่งตัณหาไปได้

๕๙๗.
แม้มีฤทธิ์เดช มีปัญญาเฉียบแหลม มีคนเป็นอันมายกย่องบูชา
หากอยู่ในอำนาจของสตรีย่อมไม่รุ่งโรจน์เหมือนพระจันทร์ถูกพระราหูบดบังไว้ฉนั้น

๕๙๘.
คนดีย่อมปรากฎไปไกลเหมือนภูเขาหิมาลัย  คนชั่วอยู่ที่ไหนก็ไม่ปรากฎ เหมือนลูกศรยิงไปในกลางคืนฉนั้น

๕๙๙.
คนฉลาดมีโภคทรัพย์มากแล้ว ย่อมสงเคราะห์วงศ์ญาติ 
เขาย่อมมีเกียรติยศชื่อเสียง  
เมื่อตายไปแล้วย่อมบรรเทิงอยู่ในสวรรค์ 

๖๐๐.
บัณฑิตย่อมไม่กระทำบาปเพื่อความสุขของตน  
คนดีแม้ได้รับทุกข์เพราะผิดพลาดไป 
ก็ย่อมไม่ละทิ้งคุณธรรมด้วยความรักหรือความโกรธ 

๖๐๑.
การทำอะไรโดยขาดความฉลาด 
ไม่รู้เท่าถึงการณ์ก็ไม่เกิดประโยชน์
คนปัญญาทรามย่อมทำลายผลประโยชน์เหมือนลิงเฝ้าสวน

๖๐๒.
บัณฑิตจะเป็นบุรุษไปหมดก็หาไม่ 
สตรีมีปัญญาเฉียบแหลมก็เป็นบัณฑิตได้เหมือนกัน 

๖๐๓.
ภิกษุไม่ควรหวั่นไหวในคำนินทา ไม่ฮึกเหิมในคำสรรเสริญ ควรเบาบางในความโลภ ความตระหนี่ ความโกรธ และการส่อเสียด

๖๐๔.
บัณฑิตย่อมมองเห็นเหตุและไม่ใช่เหตุได้แจ่มแจ้ง  มองเห็นผลได้แจ่มชัด ย่อมเปลื้องตนออกได้โดยฉับพลันโดยไม่ต้องกลัวผลร้ายที่จะติดตามมาภายหลัง 

๖๐๕.
ผู้ใดตั้งใจประพฤติพรหมจรรย์เป็นคนโสด เขาเรียกกันว่า บัณฑิต ส่วนผู้ใดฝักใฝ่ในการมีคู่สมรสย่อมมืดมนเศร้าหมอง 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น